spot_img
Home Blog Page 2

รีวิวโบรกเกอร์ Eightcap ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

eightcap logo

Eightcap เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลีย มีสินทรัพย์มากมายให้กับเทรดเดอร์ได้เลือกเทรด ถึงแม้จะเปิดให้บริการในประเทศไทยได้ไม่นานแต่ Eightcap ก็เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีการแยกเงินทุนลูกค้าออกจากเงินทุนบริษัท มีระบบการฝากเงินและเปิดบัญชีที่ง่าย อีกทั้งยังมีเรทการฝากถอนที่ดีเยี่ยม ทำให้โบรกเกอร์เจ้านี้เป็นที่น่าสนใจมาก

ข้อดีของโบรกเกอร์

  1. มีใบอนุญาตและองค์กรกำกับดูแล
  2. ค่า Commission และ ค่า Spread ถูกระบุไว้ชัดเจน
  3. เปิดบัญชีง่าย สะดวก
  4. มีการแยกเงินทุนของลูกค้า
  5. สามารถใช้ธนาคารในประเทศฝากเงินได้
  6. มีเว็ปไซต์เป็นภาษาไทย

ข้อเสียของโบรกเกอร์

  1. มีการเก็บค่า Swap
  2. ไม่มีบริการ VPS ให้กับลูกค้า
  3. บัญชีเดโม่อายุการใช้งานน้อย

ใบอนุญาตและองค์กำกับดูแลของบริษัท Eightcap

Eightcap มีใบอนุญาตและองค์กรกำกับดูแลเพื่อให้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของตัวโบรกเกอร์ทำให้ผู้ใช้งานมีความสบายใจที่เข้ามาร่วมเทรดกับ Eightcap โดยใบอนุญาตและองค์กรกำกับดูแลมีดังนี้

Eightcap Party Ltd กำกับดูแลภายใต้ Australian Securities & Investment Commission (ASIC) เลขใบอนุญาต ABN 73139495944

Eightcap Global Ltd กำกับดูแลภายใต้องค์กร The Securities Commission of The Bahamas (SCB) เลขใบอนุญาต AFSL 391441

นอกจากใบอนุญาตและองค์กรกำกับดูแล ทาง Eightcap ยังมีป้องกันคุ้มครองเงินของลูกค้าโดยการแยกเงินทุนของลูกค้าไปอีกบัญชีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินทุนของลูกค้า อีกทั้งยังมีระบบผู้จัดการเงินทุน (MAM) ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมบัญชีเทรดหลายบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ใน Eightcap

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ใน Eightcap มีสินทรัพย์ได้เลือกเทรด ทั้งหมด 6 ประเภทได้แก่

  1. Forex (ฟอเร็กซ์)
  2. ทองคำ
  3. แร่เงิน
  4. น้ำมัน
  5. ดัชนี
  6. หุ้น

โดยสินทรัพย์ที่กล่าวมาสามารถเทรดได้บนแพลตฟอร์ม Metatrader4 และ Metatrader 5

Platform ที่ใช้สำหรับการเทรดของ Eightcap

Eightcap ตอบสนองเทรดเดอร์เพื่อให้เทรดเดอร์ สามารถเทรดสินทรัพย์ได้อย่างสะดวกสบายและมีคุณภาพ โดยแพลตฟอร์มที่ Eightcap มีแพลตฟอร์มมาให้บริการ 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่

Metatrader 4 (MT4) สามารถเทรดสินทรัพย์ต่างๆ ได้มากมายได้เทรด และยังมีเครื่องมือที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่แต่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แล้วก็ยังสามารถใช้งานได้

Metatrader 5 (MT5) บนแพลตฟอร์ม MT5 มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย สามารถเทรดได้ทั้งทางโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์และเว็ปไซต์ เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้มากมาย แพลตฟอร์มนี้ยังเป็นที่ชื่นชอบของเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แล้ว

TradingView แพลตฟอร์ม TradingView มีแพ็คเกจการสร้างกราฟขั้นสูงเพื่อใช้สามารถวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึกและมีเครื่องมือให้ใช้มากกว่า 50 รายการ มีระบบการแจ้งเตือนที่หลากหลาย เป็นอีกหนึ่งที่น่าใช้มาก

ประเภทบัญชี

ในการใช้เทรดกับโบรกเกอร์ Eightcap จะมีบัญชีให้เทรดเดอร์เลือกเปิดหลายประเภทบัญชี ในแต่ละบัญชีจะมีค่า Spread, Commission และ Swap ที่แตกต่างกันออกไป โดยบัญชีที่สามารถเปิดได้ใน Eightcap มีดังนี้

  1. บัญชี Raw

ค่า Spread : 0.0 – 1.0 Pips

ค่า Commission: $3.5 ต่อการขายล็อตมาตรฐาน

สกุลเงิน: AUD, USD, EUR, GBP, NZD, CAD, SGD

  1. บัญชี Standard

ค่า Spread : 0.5 – 1.8 Pips

ค่า Commission: $0

สกุลเงิน: AUD, USD, EUR, GBP, NZD, CAD, SGD

  1. บัญชี TradingView

ค่า Spread : เริ่มต้นที่ 1.0 Pips

ค่า Commission: $0

สกุลเงิน: AUD, USD, EUR, GBP, NZD, CAD, SGD

ประเภทบัญชี eightcap

การฝากถอน

การฝากถอนสำหรับโบรกเกอร์ Eightcap สามารถทำได้หลายช่องทาง โดยมีทั้งช่องทางการฝากเงินของต่างประเทศและในประเทศไทย อีกทั้งยังมีบริการกับธนาคารในประเทศไทยอีกด้วย โดยช่องทางการฝากเงินกับ Eightcap มีดังนี้

  1. บัตรเครดิต/เดบิต

สกุลเงินที่รองรับ: AUD, USD, GBP, EUR, NZD, CAD, SGD

ระยะเวลาดำเนินการโดยประมาณ: ทันที 24/7

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: $0

  1. Poli Payment

สกุลเงินที่รองรับ: AUD

ระยะเวลาดำเนินการโดยประมาณ: ทันที 24/7

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: $0

  1. Bank Wire

สกุลเงินที่รองรับ: AUD, USD, GBP, EUR, NZD, CAD, SGD

ระยะเวลาดำเนินการโดยประมาณ: 1 – 3 วันทำการ

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: โปรดตรวจสอบกับธนาคาร

  1. BPAY

สกุลเงินที่รองรับ: AUD

ระยะเวลาดำเนินการโดยประมาณ: 1 – 2 วันทำการ

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: โปรดตรวจสอบกับธนาคาร

  1. China UninonPay (uPOP)

สกุลเงินที่รองรับ: RMB

ระยะเวลาดำเนินการโดยประมาณ: ทันที 24/7

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: $0

  1. Skrill

สกุลเงินที่รองรับ: USD, EUR

ระยะเวลาดำเนินการโดยประมาณ: 1-2 วันทำการ

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: $0

  1. Neteller

สกุลเงินที่รองรับ: USD, EUR

ระยะเวลาดำเนินการโดยประมาณ: ทันที

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: $0

ในส่วนอัตราค่า Swap นั้นจะถูกคำนวณและใช้งานในการเทรดทุกคืน แต่ในวันพุธตอนกลางคืนอัตราค่า Swap จะถูกคิดเป็น 3 เท่า จากอัตราปกติ โดยอัตราค่า Swap จะสามารถเป็นได้ทั้งบวกและลบขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของสองสกุลเงิน

โบนัสและโปรโมชั่น

โปรแกรมแนะนำโบรกเกอร์ เป็นโปรแกรมที่ให้ผู้ใช้งานแนะนำโบรกเกอร์ โดยมีรางวัลเป็นการมีโอกาสได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการเทรดของลูกค้าที่ผู้ใช้งานได้ไปแนะนำไว้

ช่องทางการติดต่อ

  • ช่องทางที่สามารถใช้ติดต่อกับ Eightcap มีได้หลายช่องทางดังนี้
  • โทรศัพท์: +61 3 8375 9700 /+61 3 8373 4800
  • อีเมลล์: [email protected]
  • Line Official: @eightcapth
  • ที่อยู่: 208 Church Street, Sandyport Nassau, The Bahamas
  • และสามารถติดต่อได้ทาง Live chat 24 ชั่วโมง

รีวิวโบรกเกอร์ ForexChief ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

ForexChief logo

ForexChief เป็นโบรกเกอร์ซื้อขายฟอเร็กซ์และ CFDs ออนไลน์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่วานูอาตู และมีสาขาย่อยในสิงคโปร์ ไนจีเรีย และอินโดนีเซีย

ForexChief ให้บริการการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท ได้แก่ ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น และ cryptocurrency เป็นโบรกเกอร์ที่มีสินทรัพย์ให้ซื้อขายหลากหลายประเภท มีค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นและให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์

ForexChief ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่มีตัวเลือกการซื้อขายที่หลากหลายและให้บริการที่ครบครัน

ข้อดี – ข้อเสียของโบรกเกอร์ ForexChief

ข้อดี

  • ประเภทบัญชีที่หลากหลาย ForexChief ให้บริการประเภทบัญชีที่หลากหลาย เหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับ ประเภทบัญชีที่ได้รับความนิยม ได้แก่
  • บัญชี Standard เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นการซื้อขาย
  • บัญชี ECN เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการสเปรดที่แคบ
  • บัญชี Islamic เหมาะสำหรับนักเทรดมุสลิมที่ต้องการปฏิบัติตามหลักศาสนา (เป็นบัญชีที่ไม่มีค่า swap หรือดอกเบี้ยแบบโรลโอเวอร์สำหรับ

โพสิชั่นค้างคืนซึ่งขัดกับหลักความเชื่อของชาวมุสลิม)

  • สเปรดที่แคบ ForexChief เริ่มต้นตั้งแต่ 0.3 Pip ช่วยให้นักเทรดทำกำไรได้มากขึ้น สเปรดคือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บสำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน โดยทั่วไปแล้ว สเปรดที่แคบจะดีกว่าเพราะช่วยให้นัก

เทรดทำกำไรได้มากขึ้น

  • เลเวอเรจสูง ForexChief เลเวอเรจสูงสุด 1:1000 ช่วยให้นักเทรดสามารถเปิดสถานะขนาดใหญ่ด้วยเงินฝากเพียงเล็กน้อย เลเวอเรจคือเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้นักเทรดสามารถควบคุมสถานะที่ใหญ่กว่าเงินฝากเริ่มต้นของตนได้ อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจสูงมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
  • แพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลาย ForexChief ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลาย ได้แก่ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติครบถ้วน ช่วยให้นักเทรดสามารถซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ตัวเลือกการฝากและถอนที่หลากหลาย ForexChief มีตัวเลือกการฝากและถอนที่หลากหลาย ช่วยให้นักเทรดสามารถฝากและถอนเงินได้อย่างสะดวก ตัวเลือกการฝากและถอนที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การโอนเงินผ่านธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต และ e-Wallet
  • ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ForexChief มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้นักเทรดสามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ ForexChief ให้บริการเป็นภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่นอื่นๆ

ข้อเสีย

  • ข้อมูลในไทยยังน้อย ขาดความน่าเชื่อถือ โบรกเกอร์ ForexChief มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่วานูอาตู ซึ่งเป็นประเทศขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิก ไม่ใช่ประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ส่งผลให้นักเทรดอาจไม่มั่นใจในความปลอดภัยของเงินทุน ในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโบรกเกอร์นี้มากนัก ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของนักลงทุนไทย

ใบอนุญาต / องค์กรกำกับดูแล

ชื่อบริษัท: ForexChief Ltd.

หมายเลขจดทะเบียน: 14777

ใบอนุญาต: Dealer in Securities (Principal’s License) ออกโดย VFSC

ForexChief ใบอนุญาต องค์กรกำกับดูแล

ที่อยู่: 1276 Kumul Hwy, 1st Flr Govant Bldg, Port Vila, Vanuatu

ที่อยู่บริษัท (สํานักงานใหญ่): CNM Building, 1st Flr, Port Vila, Vanuatu

โทรศัพท์: +65 3159 3652

อีเมล: [email protected]

  • ForexChief ได้รับการกำกับดูแลโดยคณะกรรมการบริการทางการเงินของวานูอาตู (VFSC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีชื่อเสียงในหมู่นักลงทุน VFSC กำกับดูแลโบรกเกอร์ซื้อขายฟอเร็กซ์และ CFDs มากกว่า 200 ราย และกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อปกป้องเงินของลูกค้า
  • การแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้า ForexChief มีการแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้าและบัญชีเงินทุนของโบรกเกอร์ บัญชีเงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ในบัญชีธนาคารแยกต่างหากจากบัญชีเงินทุนของโบรกเกอร์ ซึ่งจะช่วยปกป้องเงินของลูกค้าในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย
  • การทำประกัน ForexChief ทำประกันเพื่อคุ้มครองเงินของลูกค้าในกรณีที่

โบรกเกอร์ล้มละลาย การทำประกันจะช่วยคุ้มครองเงินของลูกค้าในกรณีที่โบรกเกอร์ไม่สามารถชำระหนี้ให้กับลูกค้าได้

  • ForexChief มีชื่อเสียงที่ดีในหมู่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์นี้ยังมีประวัติความเป็นมาและชื่อเสียงในไทยที่ค่อนข้างน้อย ดังนั้นจึงอาจขาดความน่าเชื่อถือสำหรับนักเทรดไทย

สินค้าที่สามารถเทรดได้ของโบรกเกอร์ ForexChief มีดังนี้

ฟอเร็กซ์

  • สกุลเงินหลัก (Majors) เช่น USD/EUR, USD/JPY, GBP/USD, AUD/USD, NZD/USD
  • สกุลเงินรอง (Minors) เช่น EUR/JPY, GBP/JPY, AUD/JPY, NZD/JPY, USD/CHF, USD/CAD, EUR/GBP, AUD/NZD
  • คู่สกุลเงินที่เกิดขึ้นมาใหม่ (Exotic pairs) เช่น USD/TRY, USD/RUB, USD/MXN, USD/ZAR, USD/CNY

โลหะมีค่า

  • ทองคำ (XAU/USD)
  • เงิน (XAG/USD)
  • แพลตตินัม (XPT/USD)

พลังงาน

  • น้ำมันดิบ (WTI)
  • น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent)
  • แก๊สธรรมชาติ (NG)

ดัชนีต่างๆ

  • S&P 500 (US500)
  • NASDAQ 100 (US100)
  • Dow Jones Industrial Average (US30)
  • FTSE 100 (UK100)
  • CAC 40 (FR40)
  • DAX 30 (DE30)
  • Nikkei 225 (JP225)

Platform การเทรด

ForexChief ให้บริการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 4/5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แพลตฟอร์มนี้มาพร้อมกับเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น อินดิเคเตอร์ เครื่องมือวิเคราะห์กราฟ และกลยุทธ์การซื้อขายสำเร็จรูป

MetaTrader 4

  • MetaTrader 4 เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แพลตฟอร์มนี้ใช้งานง่ายและมาพร้อมกับเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น อินดิเคเตอร์ เครื่องมือวิเคราะห์กราฟ และกลยุทธ์การซื้อขายสำเร็จรูป

MetaTrader 5

  • MetaTrader 5 เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่พัฒนาต่อยอดจาก MetaTrader 4 แพลตฟอร์มนี้มีคุณสมบัติที่หลากหลายกว่า MetaTrader 4 เช่น การซื้อขายแบบหลายสินทรัพย์ การซื้อขายแบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง

ForexChief รองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4/5 บนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เดสก์ท็อป แล็ปท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน

ForexChief Platform การเทรด

ข้อดีของแพลตฟอร์ม MetaTrader 4/5

  • ใช้งานง่าย
  • มาพร้อมกับเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลาย
  • รองรับการซื้อขายหลายสินทรัพย์
  • รองรับการซื้อขายแบบอัตโนมัติ
  • รองรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง

ประเภทบัญชีการเทรด

ForexChief มีบัญชีประเภทต่างๆ ให้เลือก ดังนี้

  • บัญชี Standard : เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นการซื้อขาย
  • บัญชี Classic+ : เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการสเปรดที่แคบลง
  • บัญชี ECN : เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการต้นทุนการซื้อขายที่ต่ำที่สุด
  • บัญชีอิสลาม : เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการซื้อขายโดยไม่เสียค่าคอมมิชชั่น

เงินฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชี ForexChief มีดังนี้

  • บัญชี Standard : $50
  • บัญชี Classic+ : $100
  • บัญชี ECN : $200
  • บัญชีอิสลาม : $50

ค่า Spread ของบัญชี ForexChief มีดังนี้

  • บัญชี Standard : เริ่มต้นที่ 0 pip
  • บัญชี Classic+ : เริ่มต้นที่ 6 pip
  • บัญชี ECN : เริ่มต้นที่ 0 pip

ForexChief Leverage สูงสุด 1:1000

  • บัญชี Standard เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นการซื้อขาย บัญชี Classic+ เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการสเปรดที่แคบลง บัญชี ECN เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการต้นทุนการซื้อขายที่ต่ำที่สุด และบัญชีอิสลาม เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการซื้อขายโดยไม่เสียค่าคอมมิชชั่น

สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาบัญชีประเภทต่างๆ เงินฝากขั้นต่ำ ค่า Spread และ Leverage ของโบรกเกอร์

  • พิจารณาระดับประสบการณ์ของคุณ
  • พิจารณาประเภทสินทรัพย์ที่คุณต้องการซื้อขาย
  • พิจารณางบประมาณของคุณ
  • พิจารณาเงื่อนไขการซื้อขายอื่นๆ ของโบรกเกอร์

การฝากถอนของโบรกเกอร์ ForexChief

การฝากเงิน

  • ธนาคาร
  • บัตรเครดิต/เดบิต
  • กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet)

การถอนเงิน

  • ธนาคาร
  • บัตรเครดิต/เดบิต
  • กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet)

ForexChief ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน แต่อาจมีค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน ขึ้นอยู่กับวิธีถอนเงินที่คุณเลือก

ระยะเวลาดำเนินการ

  • การฝากเงินจะดำเนินการทันที ในขณะที่การถอนเงินอาจใช้เวลา 1-3 วันทำการ

ข้อกำหนดในการฝากเงินและถอนเงินของ ForexChief มีดังนี้

  • การฝากเงิน ขั้นต่ำ: $50

สูงสุด: ไม่จำกัด

  • การถอนเงิน ขั้นต่ำ: $50

สูงสุด: ไม่จำกัด

ForexChief ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการฝากถอนเงินของคุณ ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินของคุณจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยโดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูง

โบนัส/โปรโมชั่น

  • โบนัสต้อนรับ 100% สูงสุดไม่เกิน $500 สำหรับบัญชี Standard และ Classic+ โบนัสนี้จะเข้าบัญชีของคุณหลังจากคุณฝากเงินครั้งแรก
  • โบนัสไม่ต้องฝากเงิน $100 โบนัสนี้จะเข้าบัญชีของคุณโดยอัตโนมัติหลังจากคุณยืนยันบัญชีของคุณ
  • ให้เครดิต 70% ทุกๆยอดฝากสูงสุดไม่เกิน $1000 สำหรับบัญชี Standard และ Classic+ เครดิตนี้สามารถใช้เพื่อซื้อตำแหน่งได้
  • รับ Rebate จากการเทรด 20% สูงสุด $1000 สำหรับบัญชี Standard และ Classic+

สิ่งสำคัญคือต้องอ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดของโบนัสและโปรโมชั่นของ ForexChief อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจรับโบนัสหรือเข้าร่วมโปรโมชั่น

ข้อดีของโบนัส/โปรโมชั่น

  • โบนัสและโปรโมชั่นสามารถช่วยให้นักเทรดเริ่มต้นการซื้อขายด้วยเงินทุนที่น้อยลง หรือเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากโบนัสและโปรโมชั่น

ความเสี่ยงของโบนัส/โปรโมชั่น

  • โบนัสและโปรโมชั่นอาจทำให้นักเทรดมีความเสี่ยงมากขึ้นในการสูญเสียเงิน เนื่องจากนักเทรดอาจรู้สึกกดดันที่จะทำกำไรเพื่อถอนเงินโบนัสหรือรับรางวัลจากโปรโมชั่น

ช่องทางการติดต่อ

  • ติดต่อได้ทางเว็บไซด์ https://www.forexchief.com ในส่วนนี้จะเป็นบริการ Live chat จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการตอบปัญหาต่างๆตลอด 24 ชม.
  • E-mail : [email protected] จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 24 ชม

รีวิวโบรกเกอร์ Weltrade ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

weltrade logo

Weltrade เป็นโบรกเกอร์ที่มีความเสี่ยงในระดับปานกลาง โดยเป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการซื้อ – ขาย จากการลงทุนใน ตลาด Forex, โลหะ และสินค้าโภคภัณฑ์ ในรูปแบบออนไลน์ เปิดโอกาสในการซื้อ – ขายให้กับเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองคิงส์ทาวน์ เซนต์วินเซนต์ และเกรนาดีนส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2006

และปัจจุบันให้บริการการลงทุนแก่เทรดเดอร์มากกว่า 300,000 รายใน 18 ประเทศ เช่น รัสเซีย, เบลารุส, เวียดนาม, ยูเครน, อินโดนีเซีย, คาซัคสถาน, ไทย, ลาว และมาเลเซีย บัญชี Pro ของ Weltrade เป็นหนึ่งในบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และมีการเปิดการซื้อ – ขายที่เร็วที่สุดให้กับเทรดเดอร์ แพลตฟอร์มได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ทำให้มือใหม่สามารถเข้ามาศึกษา และเริ่มลงทุนได้ง่ายมากขึ้น

ข้อดี

Weltrade เป็นโบรกเกอร์ที่มีสินทรัพย์ให้เลือกมากมาย สามารถทำการซื้อ – ขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน สามารถเทรดได้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปมือถือ ตัวแอปออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีวิดีโอแนะนำสอนการเทรด และมีเครื่องมืออ่านแผนภูมิ ที่จะเข้ามาช่วยคุณในการวิเคราะห์การอ่านกราฟทั้งในแบบพื้นฐานและแบบเทคนิค และมีข้อดีอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่

  • มีการกำหนดเงื่อนไขการซื้อ – ขายที่เป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์
  • รองรับการลงทุนทางการเงินที่หลากหลาย เช่น การเทรดคู่สกุลเงิน, กองทุนดัชนี, หุ้น, สินค้า และ สกุลเงินดิจิทัล
  • รองรับการเปิดบัญชีประเภทต่าง ๆ ที่ครอบคลุมกับเป้าหมายการลงทุน และความเชี่ยวชาญของลูกค้า
  • รองรับการเปิดบัญชีส่วนบุคคล (Individual account) สำหรับการซื้อ – ขายสกุลเงินดิจิทัล
  • นำเสนอหลายวิธีในการฝากเงิน – ถอนเงิน จากบัญชีซื้อ – ขาย
  • เปิดให้บริการฟีเจอร์ ที่ทำให้การเทรดของนักลงทุนสะดวกและง่ายขึ้น เช่น ระบบ Copytrade ZuluTrade & MQL5, การใช้ Robots ช่วยเทรด และอื่น ๆ
  • เว็บไซต์รองรับระบบภาษาไทย
  • นำเสนอโปรโมชั่นและการแข่งเทรดเป็นประจำ

ข้อเสีย

  • กำหนดเงินฝากขั้นต่ำ ที่ $25
  • ไม่เปิดการลงทุน บัญชี PAMM
  • ค่า Spread ค่อนข้างสูง
  • ค่า Swap ยังไม่ค่อยดี
  • การถอนเงิน อาจใช้เวลารอประมาณ 30 นาที

ใบอนุญาต / องค์กรกำกับดูแล  

“Weltrade” เป็นเครื่องหมายการค้า จดทะเบียนอย่างเป็นทางการของ บริษัท Systemgates Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นที่เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ โดยมีหมายเลขบริษัท 24513 BC 2018 ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องในเซนต์วินเซนต์ และเกรนาดีนส์ และเป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่

นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา Weltrade เป็นบริษัทที่ได้รับการอนุมัติ และได้รับการควบคุมในแอฟริกาใต้ (Regulated subsidiary in South Africa) โดยมีประวัติการดำเนินงานมาอย่างยาวนานกว่า 17 ปี (ก่อตั้งในปี 2006) WelTrade เป็นโบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมายและได้รับการควบคุม โดยได้รับอนุญาตและถูกควบคุมโดย FSCA หรือ The Financial Sector Conduct Authority (FSCA) หน่วยงานด้านการกำกับดูแลตลาดในแอฟริกาใต้ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่ดีในอุตสาหกรรมการเงิน แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุดอย่างหน่วยงาน FCA หรือ ASIC ก็ตาม

นอกจากนี้ Weltrade ยังมีระบบการป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (Negative balance protection) ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า ลูกค้าจะไม่ขาดทุนเกินยอดคงเหลือในบัญชีของตนเอง อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งข้อควรพิจารณาก็คือ ทางบริษัทยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับสูง ดังนั้นการคุ้มครองจึงต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับสูง แม้จะถือว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับการซื้อ – ขายในแอฟริกาใต้ก็ตาม

สินค้าที่สามารถเทรดได้

ฟอเร็กซ์, โลหะ, สินค้าโภคภัณฑ์ CFD, กองทุนดัชนี และ CFD สำหรับตราสารดิจิทัล (Bitcoin, Litecoin และ Ethereum)

Platform การเทรด

โบรกเกอร์ Weltrade คุณสามารถทำการซื้อ – ขายผ่านแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง MT4 และ MT5 โดยเป็นที่รู้จักในด้านการเทรดที่เชื่อถือได้ มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีเครื่องมือสร้างกราฟขั้นสูง และรองรับการซื้อ – ขายที่ครอบคลุม แพลตฟอร์มนี้สามารถใช้งานได้บนเดสก์ท็อป, เว็บ และอุปกรณ์มือถือ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมกับการตั้งค่า และกลยุทธ์การซื้อขายของตัวเองได้

Platform การเทรด

ค่า Spread, Commission และ Swap

  • Account currency สำหรับ บัญชี Pro, ZuluTrade สกุลเงิน USD
  • Account currency สำหรับ การเทรด Crypto สกุลเงิน USD, EUR สำหรับบัญชี Micro และ Premium
  • ฝากขั้นต่ำ 25 USD (บัญชี Micro), 200 USD (Premium และ Pro), 50 USD (Crypto), 500 USD (Pro)
  • Leverage 1:33 กำหนด 1:1000 (Micro, Premium, ZuluTrade), 1:1 — 1:1000 (Pro), 1:3 — 1:20 (Crypto)
  • Spread ลอยตัว จาก 0 – 9 pip
  • ไม่มีค่าคอมมิชชัน เงินฝาก
  • Free Swap สำหรับ บัญชี Pro และ Premium
  • ค่า Swap Forex และ Bitcoin มีค่าธรรมเนียมถอนเงิน 2%
  • ตราสารที่รองรับ ฟอเร็กซ์, โลหะ, หุ้น, CFD, กองทุนดัชนี, สินค้า และ สกุลเงินดิจิตอล
  • Margin Call / Stop Out กำหนด จาก 20% / จาก 10%
  • ไม่รองรับ การถอนเงินธนาคารในประเทศไทย

การฝาก – ถอน

รองรับการฝาก – ถอนที่หลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ ทำให้เทรดเดอร์สามารถฝากเงินเข้าบัญชีซื้อ – ขายได้แบบสะดวก รองรับการโอนเงินผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, Skrill, Neteller และ Crypro

ข้อดี

  • รองรับระบบฝากเงินดิจิทัลที่รวดเร็ว
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก
  • รองรับหลายสกุลเงิน

ข้อเสีย  

  • มีค่าธรรมเนียมการถอนเงิน

การฝากเงินขั้นต่ำของ WelTrade

ถ้าคุณต้องการเปิดบัญชีซื้อ – ขายจริง คุณจะต้องฝากเงินจำนวน $1 เพื่อเป็นจำนวนเงินฝากเริ่มแรกสำหรับบัญชี Micro โดยถือเป็นข้อเสนอที่ดีมาก และสำหรับบัญชี Pro จำนวนเงินฝากขั้นต่ำคือ $100 และสำหรับบัญชีพรีเมียมคือ $25

การถอนเงินของ WelTrade

การถอนเงินออกจากบัญชี WelTrade นั้นค่อนข้างง่าย คำขอถอนเงินของคุณจะได้รับการดำเนินการภายใน 30 นาที และสามารถถอนเงินออกได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

แนะนำขั้นตอนถอนเงินจาก WelTrade 

  • ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ
  • เลือกคำสั่ง “ถอนเงิน” ในแท็บเมนู
  • ป้อนจำนวนเงินที่คุณต้องการถอนออก
  • เลือกวิธีการถอนเงิน
  • ยืนยันข้อมูลการถอน
  • คุณสามารถตรวจสอบสถานะการถอนเงิน ผ่านแดชบอร์ดของคุณได้เลย
  1. คุณสมบัติบัญชีไมโคร
  • ฝากขั้นต่ำ: 25 USD
  • ความเร็วเฉลี่ยในการดำเนินการ: จาก 0.9 วินาที
  • สกุลเงินของบัญชี: USD, EUR
  • สเปรด: ลอยตัวจาก 1.9 pip
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • ประเภทการดำเนินการ: Market
  • ใบเสนอราคา: 5 marks
  • เลเวอเรจ: 1:33 – 1:1000
  1. คุณสมบัติบัญชีพรีเมียม
  • ฝากขั้นต่ำ: 200 USD
  • ความเร็วเฉลี่ยในการดำเนินการ: จาก 0.8 วินาที
  • สกุลเงินของบัญชี: USD, EUR
  • สเปรด: ลอยตัวจาก 1.9 pip
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • ประเภทการดำเนินการ: Market
  • ใบเสนอราคา: 5 marks
  • เลเวอเรจ: 1:33 – 1:1000
  1. คุณสมบัติบัญชี Pro
  • ฝากขั้นต่ำ: 500 USD
  • ความเร็วเฉลี่ยในการดำเนินการ: จาก 0.5 วินาที
  • สกุลเงินของบัญชี: USD
  • สเปรด: ลอยตัวจาก 0.5 pip
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • ประเภทการดำเนินการ: Market
  • ใบเสนอราคา: 5 marks
  • เลเวอเรจ: 1:1 – 1:1000
  1. คุณสมบัติบัญชี ZuluTrade
  • ฝากขั้นต่ำ: 200 USD
  • ความเร็วเฉลี่ยในการดำเนินการ: จาก 0.7 วินาที
  • สกุลเงินของบัญชี: USD
  • สเปรด: ลอยตัวจาก 2.9 pip
  • ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ 1.5 จุด
  • ประเภทการดำเนินการ: Market
  • ใบเสนอราคา: 5 marks
  • เลเวอเรจ: 1:33 – 1:500
  • มีเฉพาะบนแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 เท่านั้น
  1. คุณสมบัติบัญชี Crypto
  • ฝากขั้นต่ำ: 50 USD
  • ความเร็วเฉลี่ยในการดำเนินการ: จาก 0.7 วินาที
  • สกุลเงินของบัญชี: USD
  • สเปรด: ลอยตัวตั้งแต่ 0 pip
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • ประเภทการดำเนินการ: Market
  • ใบเสนอราคา: 5 marks
  • เลเวอเรจ: 1:3 – 1:20

โบนัส / โปรโมชั่น

  • แจกโบนัสเงินฝาก 100% เพียงเปิดและฝากเงินไปที่บัญชีซื้อ – ขาย MT5
  • แจกเงินคืนสูงถึง 6% ต่อปี
  • โบนัส Spinner หมุนวงล้อลุ้นรับโชค แจกโบนัสสูงถึง 3333% สำหรับบัญชี MT5 เท่านั้น
  • โปรโมชั่น Astrocards ลุ้นรับโบนัสมากถึง $1,000 ในการแจกแต่ละรอบ สำหรับบัญชี MT5 เท่านั้น
  • โปรโมชั่น Trade2win เพียงทำการซื้อ – ขายแลกเปลี่ยน 2 ล็อต ใน 1 สัปดาห์ แจกรางวัลสูงสุด 10,000 USD
  • มีการจัดงานการแข่งขัน บัญชีทดลอง WELTRADE อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในตลาด ทั้งในแง่ของผู้เข้าร่วมเทรด และการแจกรางวัลเงินสด ทำให้เทรดเดอร์ได้ลุ้นชัยชนะจากกิจกรรมสนุก ๆ

ช่องทางการติดต่อ

รีวิวโบรกเกอร์ FXOPen ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

FxOpen LOGO

เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่กำลังเป็นที่รู้จักกับ FXOPEN ซึ่งพวกเขามีจุดเริ่มต้นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2005 หลังจากที่ก่อตั้งพร้อมทั้งเข้าสู่ตลาดการเงินอย่างเต็มตัว จากจุดเริ่มต้นที่มาจากการที่พวกเขาคือศูนย์การศึกษาหลักสูตรการเงิน โดยกลุ่มเทรดเดอร์ที่มีความสนใจในการเทรดได้เปลี่ยนพวกเขาไปตลอดกาล พร้อมทั้งการให้บริการที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยความโดดเด่นของพวกเขาก็คือ สามารถเลือกบัญชีเทรดได้แบบตอบโจทย์ทุกกลยุทธ์ของแต่ละคน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ การซื้อขายตราสารได้หลากหลายชนิด แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขายังไม่เป็นที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยก็ยังมีอีกมากในอดีต แต่ในปัจจุบันบอกได้เลยว่าการปรับปรุงอะไรหลายอย่างที่ตอบโจทย์คนไทยมากขึ้น

รู้จัก Fxopen กับ เรื่องเด่นของพวกเขา      

ภาพแสดงจุดเด่นที่ FXOPEN แนะนำ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

“ภาพแสดงจุดเด่นที่ FXOPEN แนะนำ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย”

เรื่องเด่น ๆ เลยก็คือพวกเขาเป็น โบรกเกอร์ที่มีตราสารให้เทรดมากกว่า 600 ตัว ได่แก่ Forex,ดัชนี,สินค้าโภคภัณฑ์,หุ้น รวมทั้งสกุลเงินดิจิตอล กับ บัญชีเทรดมาตรฐานอย่าง ECN/STP ที่ตอบโจทย์นักลงทุนหลาย ๆ ราย กับความโดดเด่นที่มีค่าสเปรดต่ำเริ่มต้น 0.0 มีกลยุทธ์การเทรดให้เลือกใช้เยอะ อีกทั้งแพลตฟอร์มการเทรดยอดนิยมที่หลากหลาย พร้อมทั้งจำนวนเงินฝากเริ่มต้นลงทุนที่ใช้เงินเพียง 1 USD ก็สามารถใช้งาน FXOPEN  ได้แล้ว

ทำไมถึงต้องเลือกเทรดที่ FXOPEN นี่แหละคือเหตุผล

“ทำไมถึงต้องเลือกเทรดที่ FXOPEN นี่แหละคือเหตุผล”

ข้อดีของ FXOPEN

  • ลงทะเบียนง่าย ฝากเงินได้ เริ่มเทรดง่าย
  • มีบัญชีเทรด หรือ บัญชีการซื้อขายที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกลยุทธ์
  • ฝากเงินเริ่มต้นเพียง 1 USD
  • ค่าสเปรดต่ำเริ่มต้น 0
  • หน้าเว็บไซต์มีภาษาไทยให้บริการ เข้าใจง่าย
  • แพลตฟอร์มการเทรดยอดนิยมอย่าง MT4 / MT 5

ข้อเสียของ FXOPEN

  • บางหัวข้อยังไม่สามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ เว็บไซต์ไม่ค่อยสเถียรในการให้บริการภาษาไทย
  • ไม่มีโปรโมชั่น หรือ โบนัสในการเทรด
  • มีรีวิวออกมาว่า เซิฟเวอร์มีปัญหาค่อนข้างบ่อย
  • ถึงแม้ว่าจะมีการกำกับดูแล แต่จากรีวิวดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
  • มีโบรกเกอร์ปลอมชื่อเดียวกันมาเลียนแบบ
  • ค่าเลเวอเลจต่ำ / ค่า Stop Out 50% บัญชี ECN อาจไม่เหมาะสำหรับบางกลยุทธ์
  • การฝากถอน อาจมีค่าธรรมเนียม แต่เว็บไซต์ไม่มีข้อมูลบอกที่แน่ชัด

การกำกับดูแล FXOPEN ความน่าเชื่อถือ

FXOPEN มีการกำกับดูแลจาก FCA หรือ Financial Conduct Authority

  • ใช้ชื่อในการลงทะเบียนรับรองคือ FXOPEN LTD
  • หมายเลขกำกับดูแล 579202

สถานที่ตั้งบริษัทของ FXOPEN

“สถานที่ตั้งบริษัทของ FXOPEN

สำหรับความน่าเชื่อถือของ FXOPEN จัดได้ว่าอยู่ในระดับที่เชื่อถือได้ เพราะมีหน่วยงานที่กำกับดูแล รับรอง พร้อมทั้งประสบการณ์ของโบรกเกอร์ที่ให้บริการมาอย่างยาวนาน อีกทั้งองค์ประกอบเรื่องความรู้ทางการเงินที่พวกเขามีข้อมูลทำให้เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่คนต่างประเทศเลือกใช้เช่นกัน

ประเภทบัญชี FXOPEN

บัญชี Micro (ไม่มีค่าคอม / เลเวเรจสูง / ฝากเริ่มต้นน้อย)

บัญชีนี้จะเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่มีทุนน้อย ต้องการฝึกกลยุทธ์ของตัวเอง

  • ฝากเงินขั้นต่ำ 1 USD
  • ค่าสเปรดลอยตัว
  • ค่าเลเวอเรจสูงสุด 1:500
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

บัญชี STP (ไม่มีสเปรด / ไม่มีค่าคอมมิชชั่น)

บัญชีนี้จะเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ รวมทั้งผู้ที่มีความรู้เรื่องการเทรด มีประสบการณ์ในตลาดมาแล้ว ต้องการใช้กลยุทธ์การเทรด ด้วยเงินฝากเริ่มต้นที่ต่ำ ทำให้คุณทำกำไรได้ง่าย

  • ค่าสเปรด 0.0 Pips
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • ฝากเงินขั้นต่ำ 10 USD
  • ค่าเลเวอเรจสูงสุด 1:500

บัญชี ECN (ค่าสเปรด 0/มีค่าคอมมิชชั่น/ฝากขั้นต่ำสูง)

บัญชีนี้จะฝากขั้นต่ำ 100 USD เป็นขั้นต่ำ

  • ค่าเลเวอเรจสูงสุด 1:500
  • มีค่าคอมมิชชั่น
  • ค่าสเปรด 0.0 Pips แบบลอยตัว

บัญชี Crypto  (มีค่าคอมมิชชั่น/ เลเวอเรจ 1:3)

  • ค่าสเปรด 0.0 Pips แบบลอยตัว
  • ค่าเลเวอเรจสูงสุด 1:3
  • ค่าคอมมิชชั่น
  • ฝากเงินเริ่มต้น 10 USD

ภาพแสดงการเปรียบเทียบแต่ละบัญชีเทรดทั้ง 4 บัญชี

“ภาพแสดงการเปรียบเทียบแต่ละบัญชีเทรดทั้ง 4 บัญชี”

ภาพเปรียบเทียบรายละเอียดของแต่ละบัญชี (เพิ่มเติมเกี่ยวกับ มาร์จินคอล และ Stop Out

“ภาพเปรียบเทียบรายละเอียดของแต่ละบัญชี (เพิ่มเติมเกี่ยวกับ มาร์จินคอล และ Stop Out

แพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขาย

แพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขาย fxopen

“ภาพแสดงแพลตฟอร์มการซื้อขาย”

  • MetaTrader 4 / 5
  • TrickTrader
  • TradingView เว็บเบราเซอร์เทรดยอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลก นิยมใช้

สำหรับ Fxopen นั้นมีแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมข้างต้น ทำให้เทรดเดอร์คนไทยอาจจะเข้าใจง่าย เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ

โปรโมชั่น และ โบนัส

ที่ FXOPEN มีจุดเริ่มต้นจากศูนย์การเรียนรู้เรื่องการเงิน จึงมีการจัดกิจกรรมแข่งขันฟอเร็กซ์เป็นโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ระดับไหนสามารถเข้าร่วมได้ พร้อมกับได้รางวัลด้วย

โปรโมชั่น และ โบนัส fxopen

“ภาพรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับ การแข่งขันเทรดฟอเร็กซ์”

การฝากเงิน Fxopen

การฝากเงิน

สามารถฝากเงินผ่านบัตรเครดิต เดบิต โอนเงินผ่านธนาคารช่องทางออนไลน์ ในสกุลเงิน USD เทียบเท่า ที่สำคัญยังรองรับสกุลเงินดิจิตอลด้วย แต่ก็มีค่าธรรมเนียมในการฝาก หรือ การถอนในแต่ละครั้งนั่นเอง

การฝากเงิน ถอนเงิน Fxopen

“ภาพแสดงรายละเอียดการฝาก-ถอน ของ FXOPEN ที่บางช่องทางก็มีการเสียค่าธรรมเนียม”

สรุป

หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลของ FXOPEN แล้วพบว่า บางคำพูดที่แปลไทยออกมายังไม่เข้าใจดีนัก รวมไปถึงช่องทางในการฝากเงิน ถอนเงิน ที่ยังไม่ชัดเจนนักว่ามีการเสียค่าธรรมเนียมเท่าไหร่บ้าง ทำให้ยังเป็นโบรกเกอร์ที่ไม่เหมาะกับคนไทยที่ชื่นชอบการฝากเงินง่าย ไม่เสียค่าธรรมเนียม ถอนเงินง่ายไม่ต้องใช้เอกสารที่ยุ่งยาก หรือ การรอคอยที่นานเกินความจำเป็น อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีการการันตีได้รับรางวัล มีแต่การพัฒนาระบบ เชื่อว่าในอนาคตอาจจะมีการกำกับดูแลจากที่อื่น หรือ ปรับปรุงโบรกเกอร์ให้ดูน่าสนใจ และ น่าลงทุนมากกว่านี้ โดยรวมแล้วใครจะลองใช้บริการดูก็ไม่เสียหาย

รีวิวโบรกเกอร์ WorldForex ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

WorldForex logo

World Forex เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 บนเกาะบริติชเวอร์จิน World Forex ถึงแม้จะเปิดทำการมานานหลายสิบปีแต่ World Forex ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมหรือเป็นโบรกเกอร์ชื่อดังในปัจจุบัน เป็นผลมาจากความน่าเชื่อถือและความมั่นใจจากลูกค้าที่มีน้อย เนื่องจากบริษัทไม่ได้มีการจดทะเบียนกับองค์กรกำกับดูแลที่มีชื่อเสียงเหมือนกับบริษัทอื่นๆและมีระบบคุ้มครองผู้ใช้งานน้อย ดังนั้นหากต้องการใช้งานโบรกเกอร์ World Forex อาจต้องทำใจยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกันในอนาคตนั้นเอง

ข้อดีของโบรกเกอร์

  1. มีภาษาไทยรองรับการใช้งานบนเว็ปไซต์
  2. มีโปรโมชั่นและโบนัส
  3. ค่า Spread ค่อนข้างเสถียร
  4. ไม่มีค่า Commission
  5. รองรับการฝากเงินกับธนาคารในประเทศไทย

ข้อเสียของโบรกเกอร์

  1. ความน่าเชื่อถือน้อย
  2. ไม่มีใบอนุญาตเหมือนกับโบรกเกอร์ดังเจ้าอื่น
  3. ช่องทางการชำระเงินน้อย
  4. สินทรัพย์ที่ใช้เทรดได้น้อย

ใบอนุญาตและองค์กรกำกับดูแลของบริษัท World Forex

World Forex นั้นไม่ได้มีองค์กรกำกับดูแลเข้ามาร่วมจดทะเบียนแต่ทางบริษัทได้มีการจดทะเบียนการค้าในชื่อต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อให้กับตนเองและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โดยมีรายละเอียดการจดทะเบียนต่างๆ ดังนี้

  • World Forex จดทะเบียนใน Saint Vincent and the Grenadines เลขที่บริษัท 24441 IBC 2018
  • บริษัท Exispro LTD เป็นบริษัทธุรกิจระหว่างประเทศที่จดทะเบียน (IBC) ในเซนต์ลูเซีย โดยมีหมายเลขทะเบียน 2023-00137

World Forex ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ด้วยการคุ้มครองผ่านกองทุนเงินทดแทนจำนวน 20,000 Euro ต่อการร้องเรียนหนึ่งครั้ง อีกทั้ง World Forex ยังจดทะเบียนอย่างเป็นทางการและถูกต้องกับ The Financial Commission (องค์กรการเงินระหว่างประเทศ) เพื่อให้สามารถระงับข้อพิพาทระหว่างลูกค้าและบริษัทได้

นอกจากนี้ World Forex ยังใช้ VerifyMytrade เข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบคำสั่งซื้อ 5,000 รายการ ตามมาตรฐานการตรวจสอบ การดำเนินการข้อตกลงที่เป็นที่ยอมรับ โดยที่ถูกกำหนดขึ้นโดย VMT

ถึงแม้ World Forex จะไม่มีองค์กรกำกับดูแลชื่อดังมาคอยดูแล แต่ก็ยังมีรางวัลที่เคยได้รับมาช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า ดังนี้

ใบอนุญาตและองค์กรกำกับดูแลของบริษัท World Forex

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ใน World Forex

World Forex มีสินทรัพย์ที่สามารถให้เทรดเดอร์เลือกเทรดได้ค่อนข้างน้อย ต่างจากโบรกเกอร์ดังๆเจ้าอื่นที่มีสินทรัพย์ให้สามารถเลือกเทรดได้หลายอย่าง สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ใน World Forex มีดังนี้

  1. ฟอเร็กส์ (Forex)
  2. โลหะ (Metal)
  3. น้ำมัน (Oil)
  4. คริปโต (Cryptocurrency)

Platform ที่ใช้สำหรับการเทรดของ World Forex

ช่องทาง Platform ที่ทาง World Forex เปิดให้กับเทรดเดอร์ได้เลือกเทรด มีหลายช่องทางเพื่อให้เทรดเดอร์มีตัวเลือกในการเทรดหรือสามารถวางแผนการเทรดของตัวเองได้ตามที่ต้องการและมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง World Forex ยังสร้าง Platform การเทรดของตัวเองขึ้นมาให้ใช้งานอีกด้วย Platform ที่ World Forex เปิดให้บริการมีดังนี้

  1. Meta Trader 4 (MT4) เครื่องมือการเทรดที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย แต่มีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเทรดไว้อย่างครบครัน
  2. Meta Trader 5 (MT5) หากผู้ใช้งานมีประสบการณ์ในการเทรด MT5 ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้มากมาย ตอบโจทย์สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
  3. WebTrader แพลตฟอร์มการเทรด ที่ถูกสร้างโดย World Forex มีอินเทอร์เฟซที่ทันสมัย เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์

ประเภทบัญชี

สำหรับ World Forex นั้นมีค่า Spread และ Swap ที่แปรผันตามบัญชีที่ผู้ใช้เปิดกับทางเว็ปไซต์ โดยประเภทบัญชีของ World Forex มีด้วยกันทั้งหมด 6 บัญชี ได้แก่

  1. บัญชี W-CENT-fix

สกุลเงิน: USD/EUR

เงินฝากเริ่มต้น: $5

ค่า Spread เฉลี่ย: คงที่จาก 1.8 Pips

ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

  1. บัญชี W-CENT

สกุลเงิน: USD/EUR
เงินฝากเริ่มต้น: $5
ค่า Spread เฉลี่ย: ลอยจาก 0.6 Pips
ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

  1. บัญชี W-PROFI-fix

สกุลเงิน: USD/EUR
เงินฝากเริ่มต้น: $5
ค่า Spread เฉลี่ย: คงที่จาก 1.8 pips
ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

  1. บัญชี W-PROFI

สกุลเงิน: USD/EUR
เงินฝากเริ่มต้น: $5
ค่า Spread เฉลี่ย: ลอยจาก 0.6 Pips
ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

  1. บัญชี W-CRYPTO

สกุลเงิน: USD
เงินฝากเริ่มต้น: $5
ค่า Spread เฉลี่ย: ลอยจาก 0 Pips
ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

  1. บัญชี W-DIGITAL

สกุลเงิน: USD/EUR
เงินฝากเริ่มต้น: $5
ค่า Spread เฉลี่ย: คงที่จาก 1.8 Pips
ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

ในส่วนค่า Swap นั้น ทาง World Forex ไม่มีการเก็บค่า Swap กับผู้ใช้งานที่เปิดบัญชี W-CENT และ W-PROFI

World Forex ประเภทบัญชี

การฝากถอน

สำหรับการฝากเงินและถอนเงินกับ World Forex นั้น มีช่องทางให้เลือกหลายช่องทาง แต่หากเป็นผู้ใช้งานในประเทศไทยนั้น จะมีตัวเลือกการให้บริการที่ไม่มากนัก โดยช่องทางการฝากเงินของประเทศไทยมีดังนี้

World Forex การฝากถอน

โบนัสและโปรโมชั่น

ณ ตอนนี้ World Forex มีโปรโมชั่น ที่เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2557 โดยโปรโมชั่นไม่มีวันสิ้นสุด โดยรายละเอียดของโปรโมชั่นมีดังนี้

  • โบนัสฝากเงิน +100% และเซิฟเวอร์ VPS (ฝากเงิน $100 ขึ้นไป รับโบนัส 100% กับจำนวนเงินฝากทุกครั้งและเซิฟเวอร์ VPS ฟรี)

โบนัสฝากเงิน +100% และเซิฟเวอร์ VPS

ช่องทางการติดต่อ

  • อีเมลล์: [email protected]
  • ที่อยู่: Suite 305, Griffith Corporate Centre P.O. Box 1510, Beachmont Kingstown St.Vincent and the Grenadines
  • โทรศัพท์: + 66 648 836 310
  • Line ID: @wforex
  • ติดต่อได้ทาง Live Chat 24 ชั่วโมง (วันจันทร์ – วันศุกร์)

รีวิวโบรกเกอร์ FXChoice ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

FXChoice คือบริษัทโบรกเกอร์ที่ดำเนินกิจการในอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์มานานกว่า 10 ปี ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการสนับสนุนลูกค้าที่ดีจึงทำให้ FXChoice ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก LiveHelpNow ถึง 5 ครั้งในช่วงปี 2016-2023 และยังได้คะแนนรีวิวสูงเป็นอันดับที่ 3 จากจำนวน 823 โบรกเกอร์ที่เว็บไซต์ www.forexpeacearmy.com ได้ทำการจัดอันดับโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดอีกด้วย

ความน่าเชื่อถือของ FXChoice

ความน่าเชื่อถือของ FXChoice

FXChoice เป็นโบรกเกอร์สัญชาติ Belize ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาในเดือนสิงหาคมปี 2010 ภายใต้ชื่อบริษัท FX Choice Limited มีการกำกับดูแลโดยหน่วยงาน FISC of Belize ด้วยใบอนุญาตเลขที่: IFSC/60/191/TS/15 ในปัจจุบัน FXChoice เปิดให้บริการในหลายประเทศทั่วโลก เปลี่ยนภาษาได้มากถึง 10 ภาษารวมถึงภาษาไทย และยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ กับระบบรักษาความปลอดภัย ข้อมูลส่วนบุคคลและการสื่อสารต่าง ๆ จะถูกเข้ารหัสด้วยเทคโนโลยี SSL เพื่อให้ข้อมูลของเทรดเดอร์และธุรกรรมทั้งหมดมีความปลอดภัยมากที่สุด เครื่องมือในการเทรดที่ใช้งานได้ก็มีหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น

  • MQL5 Signals : ค้นหาสัญญาณการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • MYFXBOOK AutoTrade : คัดลอกการเทรดจากผู้เชี่ยวชาญได้อย่างสะดวก
  • Expert Advisors (EAs) : โปรแกรมเทรดอัตโนมัติที่ได้รับความนิยมสูง
  • ZuluTrade Copytrading : คัดลอกสัญญาณและให้สัญญาณเทรดได้แบบเรียลไทม์

ข้อดี

  • มีเว็บไซต์ภาษาไทย แชทด้วยภาษาไทยได้
  • คุณภาพกราฟค่อนข้างสูง ไม่มีโกงกราฟ
  • มีบริการ VPS
  • มีเครื่องมือการเทรดอัตโนมัติ
  • มีบัญชีทดลองเทรด
  • สามารถทำ Arbitrage ได้
  • สามารถเทรด Bitcoin ได้

ข้อเสีย

  • มีค่าบริการ VPS ค่อนข้างสูง

สินค้าที่สามารถเทรดได้

สินค้าที่สามารถเทรดได้

ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดกับ FXChoice ได้จะมีอยู่ 5 รูปแบบหลัก ได้แก่

  • Forex
  • สกุลเงินดิจิทัล
  • ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
  • สินค้าโภคภัณฑ์
  • หุ้น

Platform การเทรด

Platforn ในการเทรดของ FXchoice จะมีอยู่ 4 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่

  • MetaTrader 4 (MT4)
  • MetaTrader 5 (MT5)
  • Web Platform
  • Mobile Platform

Platform การเทรด

การใช้งานหลัก ๆ ของลูกค้ามักจะใช้งานกันด้วย MT4 และ MT5 โดยแพลตฟอร์ม MT4 จะเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้เครื่องมือ Fibonacci retracement เป็นหลัก และสำหรับ MT5 ก็จะมีแดชบอร์ดที่ใหญ่กว่า ใช้งานง่าย มีคุณสมบัติพิเศษและเครื่องมือที่ซับซ้อนมากกว่า แต่ก็จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าด้วยเช่นกัน

ค่า Spread, Commission และ Swap

ค่า Spread, Commission และ Swap

FXchoice จะมีประเภทบัญชีสมาชิกอยู่ 3 ประเภทหลักคือ Classic, Optimum และ Pro โดยจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันดังนี้

บัญชี

Classic Optimum Pro

เงินฝากขั้นต่ำ

100 USD 10 USD

100 USD

ค่า Spread เริ่มต้น

0.5 pips 1.5 pips

0 pip

จำนวน lot ขั้นต่ำ

0.01 lot 0.01 lot

0.01 lot

คอมมิชชั่น

ไม่มี ไม่มี

·         3.5 USD ต่อการเทรดหนึ่งด้าน

·         1.5 USD สำหรับการเทรดปริมาณมาก

การคืนเงิน

สูงสุด 2 USD ต่อการเทรดหนึ่งด้านในปริมาณ 100,000 USD สูงสุด 2 USD ต่อการเทรดหนึ่งด้านในปริมาณ 100,000 USD

ไม่มี

Leverage สูงสุด

1:200 1:1000

1:200

ระดับ margin

50% 50%

50%

Execution

NDD, Market NDD, Market

NDD, Market

Margin call / Stop out

25/15 25/15

25/15

Forex CFDs

36 คู่สกุลเงิน 36 คู่สกุลเงิน

36 คู่สกุลเงิน

อนุญาตให้ใช้ EA ได้ทุกชนิด

ใช่ ใช่

ใช่

มีบัญชีทดลอง ใช่ ใช่

ใช่

ช่องทางการฝาก-ถอนเงินกับ FXChoice

การฝากเงินกับ FXChoice จะมีกำหนดขั้นต่ำอยู่ที่ 100 USD และมีช่องทางในการฝาก-ถอนเงินให้เลือกได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • Wire Transfer
  • Credit Card / Debit Card
  • Moneybookers
  • Perfect Money
  • WebMoney
  • Neteller
  • Skrill
  • FasaPay
  • Qiwi
  • Bitcoin
  • POLi
  • Sticpay
  • VLoad

ช่องทางการฝาก-ถอนเงินกับ FXChoice

สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทยก็จะมีวิธีฝาก-ถอนเงินที่สะดวกที่สุดมาแนะนำอยู่ 5 รูปแบบ ได้แก่

  1. โอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารหรือ Internet Banking ได้ 3 ธนาคารคือ SCB, KTB และธนาคารกรุงศรีฯ โดยจะเป็นการโอนระหว่างประเทศ ใช้เวลาดำเนินการ 2-5 วันทำการ
  2. โอนผ่าน Skrill จะมีค่าธรรมเนียม 4% ซึ่งจะคืนค่าธรรมเนียมนี้ให้ใน Equity การถอนเงินมีค่าธรรมเนียม 1% ใช้เวลาดำเนินการ 1 วันทำการ
  3. โอนผ่าน Neteller จะมีค่าธรรมเนียม 4% ซึ่งจะคืนค่าธรรมเนียมนี้ให้ใน Equity การถอนเงินไม่มีค่าธรรมเนียม ใช้เวลาดำเนินการ 1 วันทำการ
  4. โอนผ่านบัตรเครดิต / เดบิต จะมีค่าธรรมเนียม 4% ในการถอนเงินถ้ามียอดมากกว่า $100 จะต้องโอนผ่านธนาคาร และเสียค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ 25 USD แต่ถ้ามียอดน้อยกว่านั้นก็สามารถถอนผ่าน Skrill หรือ Neteller ได้
  5. โอนผ่าน Bitcoin ไม่มีค่าธรรมเนียมทั้งในการฝากและถอนเงิน

โบนัส / โปรโมชั่นของ FXChoice

โบนัสและโปรโมชั่นของ FXChoice ในปัจจุบันจะมีอยู่ 2 โปรโมชั่น ซึ่งจะแจกให้สำหรับสมาชิกใหม่เท่านั้น ได้แก่

  • โบนัส 65% จากการฝากเงินด้วยคริปโต
  • โบนัสต้อนรับ 50% จากการฝากเงินในรูปแบบอื่น

โบนัส โปรโมชั่นของ FXChoice

ช่องทางการติดต่อ

  • Website : https://th.myfxchoice.com/
  • Line : @fxchoicethailand
  • Twitter : https://twitter.com/fxchoice_eng
  • Facebook : https://www.facebook.com/fxchoiceltd/
  • Instagram : https://www.instagram.com/fxchoice/
  • YouTube : https://www.youtube.com/user/FXChoice?feature=watch
  • Tel : + 501 227 27 32
  • Address : Corner Huston & Eyre Street, Blake Building, Suite 302, Belize City, Belize

สรุปรีวิวโบรกเกอร์ FXChoice

FXChoice นับว่าเป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ เพราะมีฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ ให้ใช้งานได้เยอะ มีผลิตภัณฑ์และเครื่องมือต่าง ๆ ที่ค่อนข้างหลากหลาย มีแพลตฟอร์มในการเทรดทั้ง MT4 และ MT5 รวมถึงยังมีโปรโมชั่นเงินฝากให้ใช้กันตั้งแต่วันแรก แต่ก็อย่าลืมว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลของ FXChoice คือ FISC of Belize ซึ่งมีอำนาจในการดูแลเฉพาะในเขต Belize เท่านั้น รวมถึงเครื่องมือใด ๆ ก็ไม่สามารถคาดการณ์ความผันผวนของตลาดได้ถึง 100% ดังนั้นก่อนการลงทุนทุกครั้งควรหาข้อมูลให้ละเอียดและควรมีที่ปรึกษาในการลงทุนที่เชี่ยวชาญเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้กำไร และลดความเสี่ยงในการขาดทุนให้เหลือน้อยที่สุด

รีวิวโบรกเกอร์ freshforex ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

รีวิวโบรกเกอร์ freshforex

โบรกเกอร์ freshforex ได้ดำเนินงานในตลาดแลกเปลี่ยนเทรดตราสารระหว่างประเทศ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2004 โบรกเกอร์ freshforex ได้ชูจุดแข็งอย่างบัญชี MARKET PRO ที่ได้รับความนิยมหรือบัญชี ECN สำหรับมืออาชีพ ค่า Spread ที่แคบ อีกทั้งยังไม่มีการจำกัดการฝากขั้นต่ำ มาพร้อมกับโปรโมชั่นมากมาย มีบทวิเคราะห์ตลาดฟรี รับรางวัล มากมายกว่า 30 รางวัล มีลูกค้าจาก 158 ประเทศ ไมโครล็อตเริ่มต้นตั้งแต่ 0.01 ชูโรงมาขนาดนี้ ต้องเจาะลึกลงหน่อยว่า จริงอย่างที่เว็บไซต์แจ้งมาจริงไหม

ข้อดีของโบรกเกอร์ freshforex

  • มีหลายบัญชี ให้ลุกค้าได้เลือกเปิด จุดเด่นคือ MARKET PRO และ ECN
  • มีค่า Spread ที่แคบ
  • มี Leverage สูงสุดที่ 1:2000LEVERAGE OF 1:2000
  • ไม่มีการจำกัดการฝากขั้นต่ำ
  • มีโบนัสและโปรโมชั่นมากมาย
  • มี Live chat คอยดูแล
  • มีเจ้าหน้าที่ดูแล 24 ชม.
  • ดำเนินการตามคำสั่งซื้อขายตั้งแต่ 0.05 วินาที
  • มีช่องทางการฝาก-ถอนหลายช่องทาง

ข้อเสียของโบรกเกอร์ freshforex

  • ไม่มีใบรับรองความน่าเชื่อถือจากธนาคาร หรือสถาบันการลงทุน ในเว็บไซต์ ทำให้นักลงทุนมีความกังวล
  • รีวิวจาก trustpilot อยู่ในระดับต่ำ

ใบอนุญาตของโบรกเกอร์ freshforex

  • ในหน้าเว็บไซต์ไม่มีข้อมูลของการรับรองจากธนาคาร หรือ แหล่งสถาบันการลงทุนที่น่าเชื่อถือ

สินค้าที่สามารถเทรดได้ของโบรกเกอร์ freshforex

สินค้าที่สามารถเทรดได้ ของโบรกเกอร์ freshforex มีดังนี้

  • Forex 52
  • CFD ในโลหะ 13
  • CFD ในหุ้น 115
  • CFD on ETFs 7
  • CFD ในดัชนี 12
  • CFD ในพลังงานฟิวเจอร์ส 3
  • CFD on cryptocurrencies 74

Platform การเทรดของโบรกเกอร์ freshforex

แพลตฟอร์มการซื้อขายของโบรกเกอร์  freshforex

  • MetaTrader 4 รองรับ PC / Mac OS / Iphone / Android / Linux
  • MetaTrader 5 รองรับ PC / Mac OS / Iphone / Android การทำงานกับตราสารฟอเร็กซ์ ฟิวเจอร์ส และ CFD ทำงานร่วมกันได้ถึง 9 ทามเฟรม

ค่า Spread, Commission และ Swap  ของโบรกเกอร์ freshforex

– ค่า Spread ของโบรกเกอร์ freshforex สำหรับบัญชี ECN สเปรดเริ่มต้นตั้งแต่ 0 จุด

– ค่า Commission ของโบรกเกอร์ freshforex สำหรับบัญชี ECN (เริ่มต้นที่ $1.90 ต่อล็อต / $ 30 ต่อล้าน)

– ค่า Swap ของโบรกเกอร์ freshforex สำหรับบัญชี ใช้ได้ในบัญชี Classic, Market Pro และ ECN

บัญชีของโบรกเกอร์  freshforex

แนะนำบัญชีของโบรกเกอร์  freshforex มี 3 บัญชีดังนี้ ไม่มีการฝากขั้นต่ำ

บัญชีของโบรกเกอร์ freshforex

ภาพประกอบจาก freshforex.com

สำหรับ SWAP FREE เทรดโดยไม่ต้องจ่าย Swap

ใช้ได้ในบัญชี Classic, Market Pro และ ECN

การฝากของโบรกเกอร์ freshforex ที่ได้รับความนิยมตามรายการดังต่อไปนี้

การฝากของโบรกเกอร์ freshforex

ภาพประกอบการฝากจาก freshforex.com

การถอนของโบรกเกอร์ freshforex ที่ได้รับความนิยมตามรายการดังต่อไปนี้

ภาพประกอบการถอนจาก freshforex.com

โปรโมชั่นของโบรกเกอร์ freshforex

โปรโมชั่นของโบรกเกอร์ freshforex ที่โชว์หน้าเว็บ มีอยู่ 4 โปรโมชั่น ดังนี้

โปรโมชั่นของโบรกเกอร์ freshforex

ภาพประกอบการถอนจาก freshforex.com

โบนัสของโบรกเกอร์ freshforex

โบนัสของโบรกเกอร์ freshforex

ภาพประกอบการถอนจาก freshforex.com

รายละเอียดโบนัสทั้งหมด Forex Bonus and Promotion List | FreshForex

ช่องทางการติดต่อของโบรกเกอร์ freshforex

  • Phone : +442070992124
  • เวลา 07:00 น. – 16:00 น. GMT
  • Online-chat : พูดคุยออนไลน์ พูดคุยสดกับฝ่ายบริการลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำการ
  • telegram : FreshForexSupport
  • Email : [email protected]

รีวิวโบรกเกอร์ CXM Direct ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

cxm direct logo

CXM Direct ก่อตั้งขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ด้วยจุดประสงค์ให้อุตสาหกรรม Forex ทั่วโลกมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ผู้ก่อตั้ง CXM Direct ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างกลุ่มโบรกเกอร์ FX ชั้นนำมากกว่า 10 ราย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เทรดเดอร์ทุกคนได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ในฐานะลูกค้าของ CXM Direct แม้จะเป็นโบรกเกอร์หน้าใหม่ที่มีประสบการณ์ยังไม่มากในวงการ Forex แต่ก็เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่น่าสนใจและมีความหลากหลายในการเทรด

ข้อดีของโบรกเกอร์

  1. ไม่มีค่าบริการ Swap
  2. มีเว็ปไซต์เป็นภาษาไทยให้บริการ
  3. แยกบัญชีเงินทุนของลูกค้า
  4. ป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (NBP)
  5. มีระบบป้องกัน DDOS
  6. มีการประกันมูลค่าให้กับลูกค้าสูงถึง $5,000,000
  7. จดทะเบียนกับ FCA และ FSC

ข้อเสียของโบรกเกอร์

  1. มีช่องทางการฝากเงินของประเทศไทยน้อย
  2. ช่องทางการติดต่อไม่หลากหลาย
  3. รายละเอียดเกี่ยวกับค่า Spread และ Commission ไม่ปรากฏบนหน้าเว็ปไซต์

ใบอนุญาตและองค์กำกับดูแลของบริษัท CXM Direct

เทรดเดอร์จะมั่นใจกับ CXM Direct ได้มากน้อยแค่ไหน? ทาง CXM Direct ได้มีการจดทะเบียนใบอนุญาตและมีองค์กรกำกับดูแลอยู่ 2 แห่งได้แก่

  1. Financial Conduct Authority, United Kingdom (FCA)

จดทะเบียนในชื่อ: CXM Prime Ltd.

หมายเลขใบอนุญาต: 966753

  1. The Financial Service Commission (FSC)

จดทะเบียนในชื่อ: CXM Global

หมายเลขใบอนุญาต: GB21026337

นอกจากใบอนุญาตและองค์กำกับดูแลที่กล่าวมา บริษัท CXM Direct LLC ได้มีการทำประกันกับบริษัท LLOYD’S Syndicate Group ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทประกันรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ทุนประกันมีมูลค่าสูงถึง 5,000,000 USD เพื่อครอบคลุมความปลอดภัยและความยั่งยืนของเงินทุนของลูกค้าสร้างความเชื่อมั่นกับบริษัทให้มากขึ้น

อีกทั้งบริษัทยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงให้กับลูกค้าหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น การแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้านำไปฝากไว้กับธนาคารชั้นนำของโลก การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (NBP) ทาง CXM Direct ยังได้คำนึงถึงความสำคัญจุดนี้จึงได้เพิ่มออปชั่นนี้มาให้กับลูกค้าด้วย นอกจากนี้ยังมี ระบบการป้องกัน DDOS ซึ่งเป็นสิ่งที่ CXM Direct ลงแรงลงทุนอย่างมากเพื่อสร้างเซิฟเวอร์ที่ได้รับการป้องกันอย่างดีที่สุดในการให้บริการทางด้านออนไลน์กับเทรดเดอร์ นอกจา

บริษัท CXM Direct ยังได้รับรางวัลต่างๆ มากมายเพื่อมายืนยันความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อีกเสียงอีกด้วย

รางวัลที่บริษัท CXM Direct ได้รับ

รางวัลที่บริษัท CXM Direct ได้รับ

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ใน CXM Direct

บริษัท CXM Direct มีสินทรัพย์หลายรายการให้เทรดเดอร์ได้เลือกลงทุนได้อย่างหลากหลาย และมีตราสาร CFD มากกว่า 200 รายการ โดยประเภทของสินทรัพย์ที่มีให้เทรดมี 7 รายการ ดังนี้

  1. Crypto Currency
  2. พลังงาน
  3. Forex
  4. ดัชนี
  5. โลหะ
  6. หุ้น US/EU
  7. Baskets

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ใน CXM Direct

Platform ที่ใช้สำหรับการเทรดของ CXM Direct

CXM Direct ได้มีการนำเครื่องมือการเทรดมาให้ลูกค้าของพวกเขาได้ใช้งานกันอย่างมากมาย โดยแพลตฟอร์มที่ทาง CXM Direct ได้นำมาให้ใช้งานมีดังนี้

  1. Meta Trader 4 (MT4) เครื่องมือการเทรดที่ทันสมัยที่สุดในตลาด มีตัวเลือกการปรับแต่งให้เลือกใช้ไม่มีที่สิ้นสุดและแพลตฟอร์มนี้ยังมีความน่าเชื่อถือมากอีกด้วย
  2. Meta Trader 5 (MT5) แพลตฟอร์มการเทรดระดับสูง เพื่อให้เทรดเดอร์ได้รับประสบการณ์การเทรดที่ดีเยี่ยมและออกแบบการเทรดให้เหมาะกับความต้องการของเทรดเดอร์
  3. Social Trading เป็นตัวเลือกใหม่สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ง่ายต่อการเข้าถึง เพียงแค่ทำตามเทรดเดอร์ที่คุณเลือกและลอกเลียนแบบวิธีการเทรดของเทรดเดอร์คนอื่นๆ มาใช้งานได้
  4. Percentage Allocation Management Module (PAMM) คือรูปแบบการเทรดที่นักลงทุนนำเงินไปลงทุนกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้เทรดเดอร์ได้เทรดและนำกำไรเหล่านั้นมาให้นักลงทุน

ประเภทบัญชี CXM Direct

ประเภทบัญชีใน CXM Direct มีให้ผู้ใช้งานเลือกได้หลายประเภท แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป โดยจุดเด่นสำคัญของ CXM Direct คือ ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม Swap ในทุกบัญชีที่เปิดให้บริการและไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมในการฝากอีกด้วย ประเภทบัญชีที่มีให้บริการมีดังนี้

  1. บัญชี Cent

ตราสาร: FX, Metal, CFD’s, Stock

เงินฝากเริ่มต้น: $10

ค่า Spread เฉลี่ย: เริ่มต้นจาก 1.3 Pips

ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

  1. บัญชี Standard

ตราสาร: FX, Metals, CFDs, Cryptos, Stocks, Investment Baskets
เงินฝากเริ่มต้น: $50
ค่า Spread เฉลี่ย: เริ่มต้นจาก 1.3 Pips
ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

  1. บัญชี Standard Bonus

ตราสาร: FX, Metals, CFDs, Cryptos, Stocks
เงินฝากเริ่มต้น: $50
ค่า Spread เฉลี่ย: เริ่มต้นจาก 1.3 Pips
ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

  1. บัญชี ECN

ตราสาร: FX, Metals, CFDs, Cryptos, Stocks
เงินฝากเริ่มต้น: $100
ค่า Spread เฉลี่ย: เริ่มต้นจาก 0.1 Pips
ค่า Commission: ไม่ปรากฏ

ประเภทบัญชี CXM Direct

การฝากถอน

การฝากเงินหรือถอนเงินกับทาง CXM Direct มีให้เลือกได้หลายช่องทาง แต่หากต้องการจะฝากเงิน ผู้ใช้งานจำเป็นต้องอัพโหลดบัตรประชาชนก่อน ถึงเริ่มฝากเงินเข้าบัญชีได้ ผู้ใช้งานสามารถชำระเงินฝากกับธนาคารภายในประเทศได้ โดยวิธีการฝากเงินกับ CXM Direct มีดังนี้

  1. เลือกหัวข้อ “เงินทุน” จากนั้นกด “ฝากเงิน”

ฝาก CXM Direct

  1. กดหัวข้อ “ฝากเงิน” หลังจากนั้นเลือกบัญชีที่ต้องการฝาก แล้วเลือกชำระแบบ “QR Code”

ฝาก CXM Direct 1

  1. ใส่จำนวนเงินฝาก ตามขั้นต่ำของบัญชีที่ผู้ใช้งานเปิดใช้บริการ

ฝาก CXM Direct 2

  1. กด “ดำเนินการ” ตามด้วย “เช็คเอ้าท์” หลังจากนั้นระบบจะแสดง QR Code มาให้ผู้ใช้งานชำระเงิน หลังจากชำระเงินก็ถือเป็นอันเสร็จการฝากเงินเข้าระบบ

ฝาก CXM Direct 3

โบนัสและโปรโมชั่น

โปรโมชั่นและโบนัสของทาง CXM Direct จะปรากฏขึ้นบนหน้าหลักของเว็ปไซต์ ซึ่งทาง CXM Direct มีโปรโมชั่นให้เลือกมากมาย โดยโปรโมชั่นปัจจุบันมีดังนี้

โปรโมชั่น CXM Direct Cashback Bonanza รับเงินคืนก้อนโตจากทุกการเทรด (ระยะเวลาตั้งแต่ วันที่ 1 สิงหาคม 2566 – 31 ตุลาคม 2566)

CXM Direct Cashback Bonanza

โปรโมชั่น CXM Direct บินไปกับ CXM โปรโมชั่นพันธมิตร 2023 (ระยะเวลาตั้งแต่ วันที่ 1 สิงหาคม 2566 – 31 ตุลาคม 2566)

โปรโมชั่น CXM Direct บินไปกับ CXM โปรโมชั่นพันธมิตร 2023

**หมายเหตุ: โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต**

ช่องทางการติดต่อ

  • ที่อยู่: Suite 305, Griffith Corporate Centre, Beachmont Kingstown, Saint Vincent and the Grenadines
  • E-mail: [email protected]
  • ติดต่อผ่านช่องทาง Live Chat 24 ชั่วโมง (จันทร์ – ศุกร์)

รีวิวโบรกเกอร์ FXPrimus ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

fxprimus-logo

โบรกเกอร์ FXPrimus โบรกเกอร์ชื่อดังและเป็นที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “สถานที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการเทรด” เนื่องด้วย FXPrimus เป็นโบรกเกอร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น การทำประกันคุ้มครองวงเงินสูงสุด 2.5 ล้านยูโร การแยกบัญชีเงินให้ลูกค้า การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (NBP) และยังเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการมีใบอนุญาตและได้รับรางวัลต่างๆมากมาย ลูกค้าสามารถใช้งาน FXPrimus เทรดสินทรัพย์ได้หลายประเภท สำหรับผู้ใช้งานที่เป็นคนไทยก็ยังภาษาไทยรองรับให้เพื่อการใช้งานที่ง่ายดายอีกด้วย

รีวิวโบรกเกอร์ FXPrimus

ข้อดีของโบรกเกอร์ FXPrimus

  1. มีเว็ปไซต์รองรับภาษาไทย
  2. มีทีมงานช่วยเหลือที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้
  3. มีการทำประกันเงินทุนคุ้มครองวงเงินสูงสุด 2.5 ล้านยูโร
  4. การแยกบัญชีเงินลูกค้ากับบริษัท
  5. การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (NBP) ให้กับลูกค้าทุกคน
  6. ดำเนินการตามคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว
  7. มีช่องทางการชำระเงินหลายช่องทาง รวมถึงสามารถใช้ธนาคารในประเทศชำระเงินได้
  8. มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดได้หลายประเภท

ข้อเสียของโบรกเกอร์ FXPrimus

  1. มีสเปรดที่ค่อนข้างสูง
  2. เจ้าหน้าที่ให้บริการทางแชทเฉพาะ วันจันทร์-วันศุกร์ เท่านั้น
  3. โปรโมชั่นและโบนัสน้อย

ใบอนุญาตและองค์กำกับดูแล

FXPrimus ได้ทำการจดทะเบียนใบอนุญาตกับหลายหน่วยงาน ได้แก่

  1. Cyprus Securities and Exchange (CySEC)

จดทะเบียนในชื่อ: Primus Global Ltd.

หมายเลขใบอนุญาต: 261/14

  1. Vanuatu Financial Service Commission (VFSC)

จดทะเบียนในชื่อ: Primus Market INTL Limited
หมายเลขใบอนุญาต: 14595

  1. Financial Sector Conduct Authority (FSCA)

จดทะเบียนในชื่อ: Primus Africa (PTY) Ltd.

หมายเลขใบอนุญาต: 46675

  1. Financial Conduct Authority, United Kingdom (FCA)

จดทะเบียนในชื่อ: Primus Global Ltd.

หมายเลขใบอนุญาต: 697814

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการทำประกันคุ้มครองวงเงินสูงสุด 2.5 ล้านยูโร กับบริษัทประกันที่ชื่อว่า Vibe Syndicate Management Limited อีกทั้งบริษัทยังมีกลไลความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อให้ลูกค้าสามารถทำการเทรดได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินของลูกค้าเก็บไว้ในอีกบัญชีธนาคารเพื่อให้แน่ใจว่าเงินของลูกค้าจะได้รับการคุ้มครองอยู่เสมอ การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (NBP) ให้กับลูกค้าทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียใดๆที่เกินยอดคงเหลือในบัญชีของลูกค้า และยังให้บริษัท Third Party เข้ามาช่วยตรวจสอบและกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านความปลอดภัยของเงินทุนของลูกค้าโดยบริษัทได้ร่วมมือกับ Boudica Client Trust

รางวัลที่ FXPrimus ได้รับ

รางวัลที่ FXPrimus ได้รับ

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ใน FXP rimus

FXPrimus มีทางเลือกให้กับลูกค้ามากมายในการเลือกสินทรัพย์ที่จะนำมาเทรด โดยสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้มีดังนี้

  1. Forex
  2. หลักทรัพย์
  3. พลังงาน
  4. โลหะมีค่า
  5. ดัชนี
  6. Futures

Platform ที่ใช้สำหรับการเทรดของ FXPrimus

FXPrimus มีความต้องการที่จะให้ลูกค้า เทรดเดอร์ของพวกเขามีการเข้าถึงบัญชีการเทรดได้อย่างรวดเร็วในทุกที่ทั่วโลก ทุกชั่วโมงหรือเวลาไหนก็ตามที่ลูกค้าต้องการ ดังนั้นทางบริษัทจึงได้ให้บริการแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพถึง 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่

  1. MetaTrader 4 เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือที่ครบครันไว้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. MetaTrader 5 แพลตฟอร์มผสมผสานที่ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อมการซื้อขายและยังมีการเข้าถึงที่ง่ายอีกด้วย
  3. cTrader แพลตฟอร์มที่เหมาะกับมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ ที่ใช้กันในตลาดการเทรดของโลก มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่แม่นยำ การจัดการคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว และยังสามารถเลือกบริการความเสี่ยงได้
  4. WebTrader แพลตฟอร์มที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเทรดออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะใช้เบราว์เซอร์ใดก็ได้

Platform ที่ใช้สำหรับการเทรดของ FXPrimus

ค่าธรรมเนียม, ค่า Spread และ Commission ในการใช้บริการ FXPrimus

สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการจะเริ่มต้นการเทรดกับ FXPrimus การฝากเงินจากธนาคารกลางหรือธนาคารตัวแทน ผู้ใช้จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกับทางธนาคารเอง  โดยการฝากเงินขั้นต่ำจะอยู่ที่ 100$  ในส่วนของค่า Spread และ Commission จะขึ้นอยู่กับแพคเกจบัญชีของผู้ใช้งานที่ได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้เหมาะกับการลงทุนของผู้ใช้งาน โดยแต่ละบัญชีจะมีความแตกต่างของค่า Spread และ Commision ดังนี้

  1. PrimusClassic

สกุลเงินหลัก: USD, EUR, GBP, SGD&PLN

ค่า Spread เฉลี่ย: เริ่มต้นจาก 1.5 Pips

ค่า Commission: 0$

  1. PrimusPro

สกุลเงินหลัก: USD, EUR, GBP, SGD&PLN

ค่า Spread เฉลี่ย: เริ่มต้นจาก 0.3 Pips

ค่า Commission: 8$ (MT5) / 10$ (MT4)

  1. PrimusZERO

สกุลเงินหลัก: USD, EUR, GBP

ค่า Spread เฉลี่ย: เริ่มต้นจาก 0 Pips

ค่า Commission: 5$

  1. PrimusDEMO

สกุลเงินหลัก: USD, EUR, GBP

ค่า Spread เฉลี่ย: เริ่มต้นจาก 1.5 Pips

ค่า Commission: 0$

ประเภทบัญชี fxprimus

การฝากถอน

การฝากและถอนกับทาง FXPrimus สามารถทำได้หลายช่องทางและสะดวกสบาย ได้แก่ Visa และ Master Card, การชำระด้วย Cryptocurrency, Thai QR Payment, ธนาคารภายในประเทศ, Skrill และ Neteller โดยจำนวนขั้นต่ำที่สามารถฝากได้อยู่ที่ 100$

ขั้นตอนการฝากเงินกับ FXPrimus

  1. เลือกหัวข้อ “ฝากเงิน” ทางซ้ายมือ

การฝากเงิน fxprimus

  1. เลือกหัวข้อ “ทำการฝากเงิน” หลังจากนั้นให้ใส่จำนวนเงินที่ต้องการฝากลงไป (ขั้นต่ำ 100$)

การฝากเงิน fxprimus 2

  1. เลือกช่องทางการชำระเงิน มีด้วยหลายช่องทาง ได้แก่ Visa และ Mastercard, Cryptocurrency, ชำระด้วยQR DEPOSITS และ THAI ONLINE BANKING, Thai QR Payment, ชำระด้วยธนาคาร, ชำระด้วยเน็ตและมือถือ, Skrill และ Neteller สามารถฝากได้ 24 ชั่วโมง

การฝากเงิน fxprimus 3

  1. หลังจากนั้นชำระเงินผ่านทางช่องทางที่ได้เลือก โดยรูปตัวอย่างเป็น การเลือกชำระผ่าน Thai QR Payment

การฝากเงิน fxprimus 4

โบนัสและโปรโมชั่น

ปัจจุบัน FXPrimus มีโปรโมชั่นที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับเทรดเดอร์ ด้วย FXPrimus Trader Showdown โปรโมชั่นดังกล่าวถูกแบบมาเพื่อยกระดับการซื้อขายของผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้งานจะได้รับโบนัสในการเพิ่มเงินทุนในการซื้อขาย ด้วยการแข่งขัน Supreme Trader ส่งผลให้คุณอาจจะได้ผลกำไรเพิ่มขึ้น หากคุณสามารถติดอันดับ 1-10 ในการแข่งขันได้

หมายเหตุ: โบนัสนี้มีให้สําหรับลูกค้าที่ซื้อขายด้วยตนเองโดยใช้แพลตฟอร์ม PrimusClassic และ MT4

fxprimus bonus

ช่องทางการติดต่อ

  • Email: [email protected]
  • Live Chat: fxprimus.com/contact-us
  • Line ID: @fxprimusacc
  • ที่อยู่: 57 Kolonakiou Str. 1st Floor Limassol, 4013, Cypus

รีวิวโบรกเกอร์ ALPFOREX ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]

รีวิวโบรกเกอร์ ALPFOREX

ALPFOREX เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในปี 2019 โดยฝีมือของ CEO ชาวไทยคือ คุณมาร์ค วงศ์สุวรรณ ซึ่งได้นำประสบการณ์ลงทุนตั้งแต่สมัยที่ยังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และยังนำความรู้จากที่ได้จากการศึกษาทางด้านการเงินที่ประเทศอังกฤษมาใช้ในการบริหาร มีการรวบรวมทีมงานผู้เชี่ยวชาญเข้ามาโดยมี คุณตั้ม สุรเกียรติ ยาวะโนภาส เจ้าของเพจ Aslan Investor มาเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของ CEO โดยตรง รวมถึงยังก่อตั้ง ALPHA Academy ซึ่งรวมเหล่าเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ในการเทรด โดยมีจุดมุ่งหมายคือการสร้างสังคมเทรดเดอร์ที่มีคุณภาพเพื่อให้คนไทยทุกคนมีโอกาสประสบความสำเร็จด้านการลงทุนในตลาด Forex กันอย่างเท่าเทียม

ความน่าเชื่อถือของ ALPFOREX

แม้ ALPFOREX จะไม่ได้มีหน่วยงานในการกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีพันธมิตรเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกอย่าง LP (Liquidity Provider) และ Bridge Solutions เข้ามาเป็นผู้บริหารสภาพคล่อง แม้จะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ก็ยังลงทุนได้โดยมีความเสี่ยงที่น้อยลง และยังมีเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลายเพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของนักลงทุนให้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น

  • ฟังก์ชั่นคัดลอกการเทรด : ช่วยคัดลอกการเทรดของมืออาชีพเพื่อให้มือใหม่ทำกำไรตามได้ โดยเทรดเดอร์ที่ถูกคัดลอกจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติม
  • บัญชีทดลองเทรด : ช่วยให้นักลงทุนได้ทดสอบกลยุทธ์และฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ได้ฟรี
  • ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ตลาด : มีบทวิเคราะห์รายวันสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ ในตลาดจากผู้เชี่ยวชาญ
  • ปฏิทินเศรษฐกิจ : เป็นเครื่องมือแสดงเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคต เพื่อช่วยในการวางแผนการซื้อขาย
  • สัญญาณการซื้อขาย : ชี้ให้เห็นจุดเข้าออกในการซื้อขายโดยนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ข้อมูลตลาดและแผนภูมิ : ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาด, วิเคราะห์ตลาดเพื่อให้มีข้อมูลในการตัดสินใจ
  • แหล่งความรู้ : รวมข้อมูลเสริมในการซื้อขาย เช่น วิดีโอ, สื่อการสอน, บทความ เพื่อสร้างความรู้สำหรับเทรดเดอร์ทุกคน

ข้อดี

  • มีรูปแบบของบัญชีที่หลากหลาย ปรับแต่งให้เหมาะสมตามความต้องการเองได้
  • ใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งมีเครื่องมือวิเคราะห์การเทรดที่ครอบคลุม
  • ใช้เงินฝากขั้นต่ำเพียง $10
  • เปิดให้บริการด้วยภาษาไทยทั้งระบบ
  • อนุมัติเงินฝากภายใน 20 นาที รับยอดถอนได้ภายใน 24 ชั่วโมง

ข้อเสีย

  • เป็นโบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการมาเพียงไม่กี่ปี
  • ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลที่ชัดเจน
  • มีแพลตฟอร์มในการเทรดเพียง 1 แบบ
  • วิธีฝาก-ถอนเงินไม่ชัดเจน

ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดได้กับ ALPFOREX

ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดได้กับ ALPFOREX

  • Forex
  • Gold
  • CFDs

แม้ในปัจจุบัน ALPFOREX จะมีผลิตภัณฑ์อยู่เพียง 3 รูปแบบหลักดังกล่าว แต่ก็กำลังจะมีสกุลเงินดิจิทัลถูกอัปเดตเข้ามาให้เทรดเพิ่มได้ในเร็ว ๆ นี้

Platform การเทรด

Platform การเทรดของ ALPFOREX คือ MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเทรดอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับการเทรดรายย่อย มีกราฟราคา มีการส่งคำสั่ง มีการจัดการบัญชีอย่างชาญฉลาด เทรดเดอร์จึงสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติของตนเองได้ด้วย MetaTrader 4

ค่า Spread, Commission และ Swap

บัญชีของ ALPFOREX จะมีอยู่ทั้งหมด 3 แบบคือ STANDARD, ECN และ CENT ซึ่งในแต่ละแบบก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปดังนี้

 

STANDARD

ECN

CENT

สเปรดเริ่มต้น

1.0 pips 0.0 pips

1.0 pips

คอมมิชชั่น

0.0 $ 10 $

0.0 $

ขนาดลอตต่ำสุด

0.01 0.01

0.01

Leverage

1:1000 1:500

1:1000

เงินฝากขั้นต่ำ

10 $ 10 $

10 $

การฝากถอนเงิน

การฝากเงินกับ ALPFOREX จะมีช่องทางหลักคือ QR Payment ที่โอนเงินด้วยบัญชีธนาคารในประเทศไทยได้โดยตรง ซึ่งจะใช้เวลาในการฝากเงินเข้าบัญชีไม่เกิน 20 นาที ในส่วนของการถอนเงินจะใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง

โบนัสและโปรโมชั่น

ในปัจจุบัน ALPFOREX จะมีโบนัสสำหรับสมาชิกใหม่อยู่ 1 โปรโมชั่นคือ Bonus $30 โดยจะมีรายละเอียดของเงื่อนไขทั้งหมดดังนี้

โบนัสและโปรโมชั่น

Bonus $30

  • ต้องเป็นสมาชิกใหม่ที่ยังไม่เคยรับ Welcome Bonus มาก่อน
  • รับโปรโมชั่นได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
  • ระยะเวลาสิ้นสุดโปรโมชั่นคือ 31 ธันวาคม 2566
  • เปิดบัญชีซื้อขายแล้วรับโบนัส $30 ได้ฟรีโดยไม่ต้องฝากเงินก่อน
  • โบนัสจะถูกแสดงขึ้นมาในส่วนของ Credit ไม่ได้เป็นยอด Balance ในบัญชีซื้อขาย
  • ไม่สามารถถอนหรือโอนโบนัสออกจากบัญชีซื้อขายโปรโมชั่นได้ก่อนจะทำการปิดสถานะทั้งหมดก่อน
  • การถอนเงินจะต้องทำการซื้อขายให้ครบ 3 Lot STD มียอด Balance ไม่น้อยกว่า $30 และต้องถือออเดอร์ขั้นต่ำ 3 นาที
  • สามารถโอนเงินออกจากบัญชีโปรโมชั่นได้สูงสุด $30

ช่องทางการติดต่อ

ช่องทางการติดต่อของ ALPFOREX จะมีทั้งหมด 4 ช่องทาง ได้แก่

  • Website: www.alpforex.com
  • Facebook : https://www.facebook.com/ALPFOREX
  • Line : @ALPFOREX
  • Email : [email protected]

ในส่วนของที่อยู่ก็จะมีอยู่ 2 แห่ง คือสำนักงานในประเทศไทย และที่อยู่จดทะเบียนซึ่งอยู่ในฮ่องกง

  • Local Address : 135/22 Amornphan 205 Tower 2, Flr. 9, Nathong Alley, Ratchadaphisek Rd., Din Daeng, Din Daeng, Bangkok, 10400 (THAILAND)
  • Registered Address : 9B, AMTEL BUILDING, 148 DES VOEUX ROAD CENTRAL, CENTRAL, HONG KONG

สรุปรีวิวโบรกเกอร์ ALPFOREX

โบรกเกอร์ ALPFOREX นับว่าเป็นบริษัทโบรกเกอร์ฝีมือคนไทยที่ใช้งานได้ง่าย เหมาะทั้งสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือในการวิเคราะห์ต่าง ๆ ก็มีค่อนข้างหลากหลาย แต่ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์รวมถึงแพลตฟอร์มในการเทรดยังค่อนข้างจำกัด ในด้านความน่าเชื่อถือก็ยังมีไม่สูงนักเนื่องจากไม่มีหน่วยงานในการกำกับดูแลโดยตรง ก่อนจะตัดสินใจลงทุนกับ ALPFOREX ก็ควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนเพราะทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยงอยู่ด้วยเสมอ