รีวิวโบรกเกอร์ [Fusion Markets] ดีไหม สรุปข้อดี ข้อเสีย [แบบละเอียด]
Fusion Markets คือบริษัทโบรกเกอร์จากประเทศออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2017 และได้เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยช่วงกลางปี 2019 โดยทาง Fusion Markets จะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเทรดได้มากกว่า 250 รายการ และยังมีการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ ออกไปจนได้ชื่อว่าเป็น Australia’s Lowest Cost FX Broker ซึ่งมีสเปรดและคอมมิชชั่นต่ำที่สุดในออสเตรเลียเลยทีเดียว
รายละเอียดสำคัญของโบรกเกอร์ Fusion Markets
- เป็นบริษัทโบรกเกอร์ของประเทศออสเตรเลีย
- จัดตั้งขึ้นมาในปี 2017
- อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ ASIC, VFSC
- เป็นโบรกเกอร์รูปแบบ A-Book
- สเปรดเริ่มต้นที่ 0
- Leverage สูงสุดที่ 1:500
- ฝากถอนเงินได้ผ่านระบบ ThaiQR, Neteller, Skrill, Bank wire
- Platform การเทรด : Metatrader 4, MetaTrader 5, WebTrader, Multi Account Manager (MAM/PAMM), VPS และ DupliTrade
- มีระบบเทรดอัตโนมัติและบัญชีทดลองเทรด
ข้อดี
- ฝากถอนเงินผ่านระบบ ThaiQR ของธนาคารไทยได้
- กราฟมีความเสถียร ปรับแต่งได้ตามความต้องการ
- อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC และ VFSC
- ฝากเงินขั้นต่ำแค่ 500 บาท
- ฝาก-ถอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุด
- มีแชทภาษาไทยและผู้ดูแลบัญชีเป็นคนไทย
- Leverage สูงถึง 1:500
- สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips
- ส่งคำสั่งซื้อ-ขายทันที ไม่มีการ Re-quote หรือ Reject
- ค่าคอมมิชชั่นต่ำ
ข้อเสีย
- ไม่มีโบนัสเงินฝาก
- มีค่าธรรมเนียมในการฝาก-ถอนเงินผ่านช่องทางธนาคาร
- ถอนเงินได้ค่อนข้างช้า
ความน่าเชื่อถือของ Fusion Markets
Fusion Markets นับว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทโบรกเกอร์ซื้อขาย Forex และ CFDs จากประเทศออสเตรเลียที่มีความมั่นคงสูง ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2017 โดยมีบริษัทแม่คือ Gleneagle Asset Management Pty Limited และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย การทำงานของ Fusion Markets จะอยู่ภายใต้การควบคุมจาก 2 องค์กรหลัก ได้แก่
- ASIC (Australian Financial Services License No. 226199)
- VFSC (Vanuatu Financial Services Commission License No. 40256)
เนื่องจากในปัจจุบัน ASIC มีการปรับลด Leverage เหลือเพียง 1:30 และ 1:20 จึงมี License VFSC เข้ามาเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการ Leverage 1:500 ซึ่งลูกค้าชาวไทยก็จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ License VFSC นี้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าใครประสงค์ที่จะเทรดภายใต้การกำกับดูแลของทาง ASIC ก็สามารถส่งอีเมล์เข้ามาที่โบรกเกอร์ Fusion Markets เพื่อทำเรื่องได้ ในส่วนของการจัดเก็บเงินทุนลูกค้าก็จะมีการเก็บแยกเอาไว้ในบัญชี Trust ของธนาคาร Westpac ประเทศออสเตรเลีย
สินค้าที่สามารถเทรดได้
สินค้าที่สามารถเทรดกับ Fusion Markets ได้จะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากกว่า 250 รายการ เข้าถึงตลาดการเงินทั่วโลกได้อย่างครอบคลุมกับสินทรัพย์หลายประเภท ได้แก่
- Forex
- สินค้าโภคภัณฑ์
- พลังงาน
- โลหะมีค่า
- ดัชนีหลักทรัพย์
- เงินดิจิทัล
- หุ้น CFDs
Platform การเทรด
- Metatrader 4
- MetaTrader 5
- WebTrader สำหรับ MT4
- Multi Account Manager (MAM/PAMM)
- VPS
- DupliTrade
ค่า Spread, Commission และ Swap
โดยทั่วไปแล้ว Fusion Markets จะมีประเภทบัญชีทั้งหมดอยู่ 2 ประเภทบัญชีคือ บัญชี The Classic และบัญชี The Zero ซึ่งจะมีรายละเอียดแตกต่างกันตามประเภทบัญชี ดังนี้
|
|
The Classic | The Zero |
|
Spread |
0.8 Pips |
0.0 Pips |
|
Commission |
0 |
$4.5 |
|
Leverage |
500:1 |
500:1 |
|
เงินฝากขั้นต่ำ |
500 บาท |
500 บาท |
|
การจัดเก็บของเงินลูกค้า |
ธนาคาร Westpac |
ธนาคาร Westpac |
|
การส่งคำสั่ง |
ตลาด |
ตลาด |
|
รูปแบบการเทรด |
ไม่จำกัด |
ไม่จำกัด |
|
เจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้า |
มี |
มี |
| บัญชีทดลอง | มี |
มี |
เนื่องจาก Fusion Markets เป็นโบรกเกอร์รูปแบบ A-Book ซึ่งไม่ได้เป็นคู่สัญญากับเทรดเดอร์โดยตรง แต่ก็จะมีเครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วยให้การเทรดของลูกค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น
- Demo Account สำหรับทดลองเทรด
- Analyst Views สำหรับการรับข่าวสารและบทวิเคราะห์
- Technical Insight เครื่องมือผสมผสานข้อมูลและการวิเคราะห์
- Market Buzz เพื่อใช้ในการติดตามความเคลื่อนไหวราคาและข่าวสาร
- Trading Calculators สำหรับคำนวณการเทรด
- Fusion+ ซึ่งช่วย copy การเทรดจากเหล่าเทรดเดอร์ชั้นนำได้
ดังนั้นโบรกเกอร์ Fusion Markets จึงช่วยให้ลูกค้าติดตามข่าวสารที่สำคัญสำหรับการเทรดได้อย่างสะดวก รวมถึงยังคำนวณค่า Pip Value, Margin, Swaps, Profit&Loss ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
การฝาก-ถอนเงิน
ช่องทางในการฝาก-ถอนเงินของ Fusion Markets จะมีช่องทางหลักคือ
- บัตรเครดิค / เดบิต
- ธนาคารท้องถิ่น
- PayPal
- Skrill
- Neteller
- Crypto

ช่องทางการฝากเงินแต่ละแบบก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น การใช้บัตร Visa หรือ Mastercard จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝาก และยอดเงินก็จะเข้าสู่บัญชีของคุณทันที แต่ถ้าฝากหรือถอนเงินผ่านธนาคารท้องถิ่นหรือมีธนาคารตัวกลางก็จะมีค่าธรรมเนียมสูงถึง 20-30 ดอลลาร์ และใช้เวลาทำการ 1-3 วัน ซึ่งลูกค้าชาวไทยสามารถตรวจสอบรายละเอียดการฝาก-ถอนเงินเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของ Fusion Markets ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00-18:00 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้บริการ
โบนัส / โปรโมชั่น
ในปัจจุบันยังไม่มีโปรโมชั่นเงินฝาก
ช่องทางการติดต่อ
สำหรับช่องทางการติดต่อของ Fusion Markets จะแยกออกมาได้เป็นช่องทางการติดต่อสำหรับลูกค้าชาวไทย ลูกค้าประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษ และช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ดังนี้
สำหรับลูกค้าในประเทศไทย
- เว็บไซต์ : www.fusionmarketsth.com
- Line : @Fusionmarkets
- เบอร์โทรศัพท์ : 02-1147370 (09:00-18:00 น.)
- E–mail : [email protected]
สำหรับลูกค้าในประเทศอื่น
- เบอร์โทรศัพท์ : +61 3 8376 2706
- E–mail : [email protected]
ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
- Facebook : https://www.facebook.com/FusionMarkets.au
- Instagram : https://www.instagram.com/fusionmarketsau/
- Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCc9Od022bSt2Z9_Yij4H3Ig/videos
- Telegram : https://t.me/s/fusionmarkets
- Twitter (X) : https://twitter.com/FusionMarkets
สรุปรีวิวโบรกเกอร์ Fusion Markets
แม้โบรกเกอร์ Fusion Markets จะเรียกได้ว่าเป็น Australia’s Lowest Cost FX Broker ที่ใช้งานได้ง่ายด้วยภาษาไทย ความมั่นคงมีค่อนข้างสูง และยังมีเครื่องมือการเทรดให้ใช้งานได้เยอะ แต่ก็จะมีเสียงจากลูกค้าส่วนหนึ่งที่พูดถึงเรื่องของการฝาก-ถอนเงินที่ค่อนข้างช้า มีความยุ่งยาก รวมถึงยังไม่มีโปรโมชั่นเงินฝากต่าง ๆ ให้ใช้ หากต้องการเทรดกับ Fusion Markets ก็ควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจนก่อนลงทุน และควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนด้วยว่าเป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะสำหรับคุณหรือไม่




